บทที่ 9 ตอนที่ 9
“พี่... พี่ราช... ปล่อยม่าน... ปล่อยม่านก่อนค่ะ”
“จะรีบไปไหนล่ะ ช่วยแต่งตัวให้ฉันก่อนสิ”
ยิ่งเห็นม่านทองตกอกตกใจแค่ไหน จอมราชก็ยิ่งหัวเราะร่วนด้วยความถูกอกถูกใจ ในขณะที่ม่านทองกลับกระดากอายจนแทบจะมุดแผ่นดินหนี
“พี่ราช... ได้โปรดเถอะค่ะ ปล่อยม่านก่อน”
“แต่งตัวให้ฉันก่อน”
“แต่ม่าน... ม่าน...”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะพูดด้วยปากคอที่สั่นเทา วูบหนึ่งจอมราชก็อดที่จะรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ ดวงตากลมโตไหวระริกรื้นไปด้วยหยาดน้ำตา หรือว่าม่านทองจะแตกต่างไปจากดลฤดี
“อย่ามาทำเป็นว่าไม่เคยเห็นมาก่อน...”
“โอ๊ย...”
ร่างเล็กถูกผลักออกห่างเต็มแรง ก่อนที่เขาจะรวบสาปเสื้อมาผูกใหม่อีกครั้ง
“เวลาเธอนอนกับผู้ชาย เธอก็เห็นไอ้นี่อยู่ดี ฉันว่าเธอเลิกเล่นละครได้แล้วน่ะ”
ม่านทองน้ำตาซึม หล่อนกัดปากแน่นมองคนปากคอเราะร้ายอย่างตัดพ้อ
“ใช่ค่ะ ม่านเคยเห็นมาก่อน...”
เขายิ้มหยันที่มุมปากอย่างถูกใจกับความคิดรู้ทันของตัวเอง แต่ไม่นานก็ต้องหุบยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของคู่สนทนา
“แต่นั่นเป็นเพราะว่าม่านเคยเช็ดตัวให้กับคนไข้ผู้ชาย ไม่ใช่ไปมั่วกับผู้ชายมาอย่างที่พี่ราชเข้าใจ”
“ถ้าเคยเห็นมาแล้ว... เธอจะร้องโวยวายทำไมนักหนา”
แม้จะน้ำตาไหลอยู่แต่แก้มนวลก็แดงจัดขึ้นมาในทันที
“คือ...”
“คืออะไร”
“ก็มันไม่ได้แข็งตัวแบบ... แบบของพี่ราชนี่คะ”
จอมราชแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ เขาลอบชำเลืองมองม่านทอง และก็ได้เห็นหญิงสาวยืนหน้าแดงก่ำสลับซีดเผือดอยู่ที่เดิม
“เห็นใหญ่เข้าหน่อยเลยตกใจว่างั้นเถอะ”
คนตัวเล็กช้อนตาขึ้นมองคนพูด แม้ว่าสายตาของเขาจะจ้องมองผ่านไปที่อื่น แต่หล่อนก็ไม่อาจจะต้านทานความอัปยศอดสูจากน้ำคำของเขาได้อีก ม่านทองกำมือแน่น กลีบปากอิ่มเต็มถูกขบเม้มด้วยฟันขาวสะอาดจนเลือดซึม
“คนหยาบคาย”
ตัดพ้ออย่างน้อยใจก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องของเขา จอมราชผวาจะวิ่งตาม แต่ธีรดลก็พรวดพราดเข้ามาขวางหน้าเสียก่อน
“เกิดอะไรขึ้นหรือครับนายน้อย”
คนถามจ้องมองเจ้านายหนุ่มที่ตอนนี้มีเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำที่ผูกไว้หลวมๆ เพียงตัวเดียวด้วยความแคลงใจ แล้วไหนจะม่านทองที่วิ่งร้องไห้สวนออกไปอีก
“ก็ไม่มีอะไรนี่”
จอมราชเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเตียง พลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี และนั่นก็ยิ่งทำให้ธีรดลที่อยู่รับใช้มานานเป็นสิบๆ ปีถึงกับต้องเลิกคิ้วสูง เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อสี่ปีก่อนขึ้น รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของจอมราชก็หายวับไปด้วย
แล้ววันนี้ทำไมมันเกิดขึ้นอีกล่ะ?
“วันนี้นายน้อยอารมณ์ดีจังนะครับ”
“ได้แกล้งคนก็เลยอารมณ์ดี”
“แกล้งคน...?”
นัยน์ตาสีนิลเนื้อดีเลื่อนไปจ้องที่ใบหน้าของลูกน้องคู่ใจ
“ใช่ ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าแม่ม่านทองอะไรนั่นจะแกล้งง่ายแบบนี้ ดูสิวิ่งร้องไห้ขี้มูกโป่งออกไปแล้ว อย่างนี้อีกไม่นานก็คงไปจากที่นี่”
คนที่นั่งอยู่บนเตียงลุกขึ้น และเดินมาชะโงกมองดูถาดอาหาร ฉับพลันใบหน้าของม่านทองก็ลอยมา ชายหนุ่มรีบสะบัดศีรษะขับไล่ทันที
“เอ่อ แล้วนายน้อยแกล้งอะไรเธอล่ะครับ”
คำถามของธีรดลทำให้จอมราชเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ก็แค่แก้ผ้าให้ดู”
“แก้ผ้า?!”
“ทำเสียงตกใจทำไมธีรดล นายก็เคยเห็นฉันแก้ผ้ามาไม่รู้กี่ครั้งแล้วนี่ ฉันไม่เห็นนายตกอกตกใจอะไรเลย แต่แม่นั่นน่ะสิ ร้องกรี๊ดๆ ยังกับชะนีโดนเชือด”
ธีรดลฟังแล้วก็ยกมือขึ้นกุมขมับของตัวเองอย่างเครียดจัด
“นายน้อยครับ... คุณม่านทองเธอคง... ไม่คุ้นเคย...”
จอมราชทรุดนั่งลงกับโซฟา พลางคว้าช้อนขึ้นมาเขี่ยข้าวหอมมะลิในจาน “ทำไมนายถึงคิดว่าแม่นั่นไม่คุ้นเคยกับอวัยวะของผู้ชาย” คนพูดเหยียดยิ้มหยัน “ขนาดผู้หญิงที่ฉันเชื่อใจมาตลอดว่าใสซื่อแสนบริสุทธิ์ยังมีผู้ชายในลิสต์เป็นหางว่าวเลย”
ธีรดลรู้ดีว่าจอมราชยังลืมดลฤดีไม่ได้ ความจริงเขาก็อยากจะให้โอกาสม่านทองมาดูแลหัวใจให้จอมราชหรอกนะ แต่ติดปัญหาอยู่ที่เจ้านายไม่ยอมนี่แหละ
“จากสายตาของผม... คุณม่านทองเธอไม่ใช่ผู้หญิงเจนจัด เธอออกจะซื่อๆ ซะด้วยซ้ำไปนะครับ”
คนฟังนั่งนิ่ง ตักข้าวใส่ปากเคี้ยวช้าๆ พลางนึกถึงคำตัดพ้อของแม่สาวตาโตก็ดังขึ้นในหูอีกระลอก
‘ก็มันไม่ได้แข็งตัวแบบ... แบบของพี่ราชนี่คะ’
“ยายเพี้ยน”
แล้วจอมราชก็เผลอตัวยิ้มออกมาซ้ำอีกครั้ง จนธีรดลที่ยืนสังเกตสังกาอยู่ข้างๆ ต้องเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
“ตกลงคืนนี้นายน้อยยังจะให้ผมไปทำผีหลอกคุณม่านทองอยู่อีกหรือเปล่าครับ”
“ทำไมต้องยกเลิกล่ะ”
“ก็... ก็ผมเห็นนายน้อยเหมือนกับจะถูกอกถูกใจคุณม่านทองน่ะครับ ผมก็เลย...”
“ฉันเนี่ยนะถูกใจแม่นั่น”
คนเป็นนายหันขวับมามองพร้อมกับกระแทกช้อนลงกับจานแรงๆ อย่างหงุดหงิด
“นายตาบอดหรือไง ฉันออกจะขยะแขยงยายเพี้ยนนั่นจะตายไป” แล้วจอมราชก็ผุดลุกขึ้นยืนเดินมาจ้องหน้าคนสนิท
“ไปจัดการเหมือนเดิม ทำยังไงก็ได้ให้แม่นั่นไปจากที่นี่”
“ครับ ครับนายน้อย”
ธีรดลก้มหน้ารับคำสั่งอย่างหวั่นเกรง จอมราชกระแทกลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน มือใหญ่กำแน่น
“ไปเตรียมตัวจัดการกับแม่นั่นได้แล้ว ไปสิ”
“ครับ นายน้อย”
ผู้เป็นบ่าวรีบรับคำก่อนจะถอยหลังออกไปจากห้องพักของเจ้านายอย่างรวดเร็ว ประตูห้องปิดสนิทลงพร้อมๆ กับความหงุดหงิดที่เพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุของจอมราช ชายหนุ่มเดินกลับไปกลับมา ถอนใจนับครั้งไม่ถ้วน แต่กระนั้นก็ไม่อาจจะหยุดคิดถึงดวงตาบ้องแบ๊วของม่านทองได้
“ผู้หญิงบ้า”
ชายหนุ่มเค้นเสียงดุดันออกมา ก่อนจะเดินไปหยุดที่ลิ้นชักหัวเตียง ดวงตาสีนิลจ้องเขม็งไปที่ลิ้นชักด้านซ้ายบนสุด มือใหญ่กำลังจะเอื้อมไปดึงมันให้เปิดออก แต่แล้วมือใหญ่ก็ชะงัก ก่อนจะถูกดึงกลับให้ไปอยู่ข้างลำตัวเช่นเดิม จอมราชขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน เขารีบเดินกลับไปนั่งลงบนวีลแชร์ก่อนจะกดบังคับให้รถเข็นมหัศจรรย์พาไปในที่ที่ต้องการ
